บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 9
ประจำวันที่ 13 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.2560




ความรู้ที่ได้รับ
"STEM” คืออะไร
เป็นการจัดการศึกษาแบบบูรณาการความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์นำลักษณะทางธรรมชาติของแต่ละสาระวิชามาผสมผสานและจัดเป็นการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน
เน้นการนำความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง
รวมทั้งการพัฒนากระบวนการผลิตใหม่ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและการทำงาน
Science (วิทยาศาสตร์)
การเรียนรู้เรื่องราวของธรรมชาติ เช่น ปรากฏการณ์ต่าง ๆ
โดยผ่านกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ ซึ่งวิทยาศาสตร์นั้นมีเป้าหมายหลักเพื่อใช้อธิบายกฎเกณฑ์หรือปรากฏการณ์ต่างๆ
ตามธรรมชาติโดยใช้หลักและระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์
Technology (เทคโนโลยี)
สิ่งที่เราสร้างหรือพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้อำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิต
ไม่ใช่มีความหมายเพียงแค่คอมพิวเตอร์หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น
แต่หมายรวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์ตามยุคสมัยต่าง ๆ อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้า
หรือรวมไปถึงเครื่องใช้ทั่วไปอย่าง ยางลบ, มีด, กรรไกร, กบเหลาดินสอ เป็นต้น
Engineering (วิศวกรรมศาสตร์)
ทักษะกระบวนการในการออกแบบ
สร้างแบบ รวมไปถึงการวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหา โดยการใช้องค์ความรู้ด้านต่าง ๆ
มาสร้างสรรค์ออกแบบผลงานที่ใช้งานได้จริง
Mathematic (คณิตศาสตร์)
เป็นการเรียนรู้ในเรื่องราวของจำนวน
ตัวเลข รูปแบบ ปริมาตร รูปทรงต่างๆ รวมไปถึงแบบรูปและความสัมพันธ์ ทักษะทางคณิตศาสตร์นี้เป็นทักษะที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกแขนงวิชา
เพราะเป็นศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ได้ มีความแม่นยำ
“STEM” กับการจัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย
“STEM” แทรกเข้าไปในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามหน่วยที่ครูจัดขึ้น
หรือเลือกตามหน่วยที่เด็กสนใจได้อย่างหลากหลาย
จะทำให้เด็กสนุกกับการเรียนในห้องมากขึ้น
การศึกษาแบบ “STEM”
เป็นการศึกษาที่ช่วยทำให้เด็กอยากเรียนรู้ด้วยตนเอง
เปลี่ยนการเรียนแบบท่องจำมาเป็นการเรียนรู้แบบลงมือทำ ปฏิบัติจริง ทดลอง สืบค้น
และใช้วัสดุอุปกรณ์
ทำให้เด็กได้ใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่
ได้รับความสนุกสนาน และมีความสนใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์
มากยิ่งขึ้น
STEAM Education
การนำ “STEM”
มาบูรณาการกับทักษะทางศิลปะ “Art” เพื่อจะทำให้เด็กได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์
และมีจินตนาการในการออกแบบชิ้นงานนั้น ๆ ให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น
STEAM Education ผีเสื้อ
กิจกรรมผีเสื้อจากจานกระดาษ
Engineering = ออกแบบว่าเราจะทำผีเสื้อปีกแบบไหน
Mathematics = ทำเป็นรูปทรงต่างๆ ทำขนาดตัวของผีเสื้อ
Art = ตกแต่งผีเสื้อตามที่เราออกแบบไว้
Mathematics = ทำเป็นรูปทรงต่างๆ ทำขนาดตัวของผีเสื้อ
Art = ตกแต่งผีเสื้อตามที่เราออกแบบไว้
กิจกรรมสร้างกรงเลี้ยงผีเสื้อ
Science = เราต้องเรียนรู้ธรรมชาติของผีเสื้อว่าอยู่แบบใด ชอบอยู่ที่แบบไหน
Engineering = เริ่มออกแบบที่อยู่ของผีเสื้อ
Mathematics = ดูปริมารอุปกรณ์ว่ามีเท่าไหร่ เพียงพอไหม รูปทรงเหมาะไหม
Art = เริ่มลงมือทำตกแต่งกรงเลี้ยงผีเสื้อ ตกแต่งด้วยใบไม้ ดอกไม้ กิ่งไม้
Engineering = เริ่มออกแบบที่อยู่ของผีเสื้อ
Mathematics = ดูปริมารอุปกรณ์ว่ามีเท่าไหร่ เพียงพอไหม รูปทรงเหมาะไหม
Art = เริ่มลงมือทำตกแต่งกรงเลี้ยงผีเสื้อ ตกแต่งด้วยใบไม้ ดอกไม้ กิ่งไม้
Stop motion วงจรผีเสื้อ
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
การศึกษาแบบ “STEM”
เป็นการศึกษาที่ช่วยทำให้เด็กอยากเรียนรู้ด้วยตนเอง
เปลี่ยนการเรียนแบบท่องจำมาเป็นการเรียนรู้แบบลงมือทำ ปฏิบัติจริง ทดลอง สืบค้น
และใช้วัสดุอุปกรณ์
ทำให้เด็กได้ใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่
ได้รับความสนุกสนาน และมีความสนใจในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์
มากยิ่งขึ้น
การประเมินผล
ตนเอง : จัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมมาอย่างพร้อมเพรียง
เพื่อน : ให้ความสนใจกับการทำกิจกรรมเป็นอย่างมาก
อาจารย์ : ใช้กิจกรรมทำให้นักศึกษาเข้าใจเนื้อหามากยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น