บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 2
ประจำวันที่ 6 เดือน กันยายน พ.ศ. 2560
ความรู้ที่ได้รับ
ในคาบนี้อาจารย์ได้ทบทวนเพลงและท่าที่ได้เรียนจากสัปดาห์ที่แล้ว จากนั้นจึงเข้าสู่บทเรียน
โดยเป็นการเรียนภาคทฤษฎีซึงมีเนื้อหาในการเรียน ดังนี้
ความหมายของความคิดสร้างสรรค์
• Jellen and Urban
ความคิดสร้างสรรค์เป็นการคิดอย่างอิสระในเชิงนวัตกรรม จินตนาการ
• De Bono
ความสามารถในการคิดนอกกรอบเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหา
• อุษณีย์ โพธิสุข
กระบวนการทางปัญญาระดับสูงที่ใช้กระบวนการทางความคิดหลายๆ อย่างมารวมกัน เพื่อสร้างสรรค์
สิ่งใหม่หรือแก้ปัญหาที่มีอยู่ให้ดีขึ้น และต้องมีอิสรภาพทางความคิด
คุณค่าของความคิดสร้างสรรค์
• ทำให้เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน
• มีความภูมิใจและเชื่อมั่นในตนเอง
• นำมาซึ่งความเป็นผู้นำ
• ตะหนักถึงคุณค่าของตนเอง
• ช่วยส่งเสริมสุนทรียภาพ
องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์
Guilford ได้แบ่งองค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์เป็น 4 ด้าน
1. ความคิดคล่องแคล่ว (Fluency) คือ คิดหาคำตอบได้อย่างรวดเร็วและสมารถเชื่อโยงความสัมพันธ์ได้
2. ความคิดริเริ่ม (Originality) คือ ความคิดแปลกใหม่และแตกต่างไปจากความคิดธรรมดาหรือแตกต่างจากบุคคลอื่น
3. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility) คือ การดัดแปลงความคิด
4. ความคิดละเอียดลออ (Elaboration) คือ การคิดจากสิ่งเดิมให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น
พัฒนาการทางความคิดสร้างสรรค์
Torrance ได้แบ่งเป็น 5 ขั้น
• ขั้นที่ 1 แสดงออกอย่างอิสระทางความคิด ไม่คำนึงถึงคุณภาพ
• ขั้นที่ 2 งานที่ผลิตต้องอาศัยทักษะบางอย่าง
• ขั้นที่ 3 ประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆโดยไม่ซ้ำใคร
• ขั้นที่ 4 ปรับปรุงขั้นที่ 3
• ขั้นที่ 5 คิดสิ่งที่เป็นนามธรรมขั้นสูงสุด คิดหลักการใหม่ๆ
ประโยชน์ของความคิดสร้างสรรค์
• ก่อให้เกิดสิ่งแปลกใหม่
• อำนวยประโยชน์สุขให้แก่บุคคล
• ช่วยให้เข้าใจปัญหาและแก้ปัญหาได้ดี
• ช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จ
• ช่วยให้ปรับตัวได้ดี
แนวคิดทฤษฎีทางความคิดสร้างสรรค์
แนวคิดและทฤษฎีโครงสร้างทางปัญญาของ Guilford
มิติที่ 1 เนื้อหา (ข้อมูลหรือสิ่งเร้าที่เป็นสื่อในการคิด)
• ภาพ
• สัญลักษณ์
• ภาษา
• พฤติกรรม
มิติที่ 2 วิธีคิด (กระบวนการทำงานของสมอง)
• การรู้และเข้าใจ
• การจำ
• การคิดแบบอเนกนัย
• การคิดแบบเอกนัย
• การประเมินค่า
มิติที่ 3 ผลของการคิด (การตอบสนองต่อข้อมูลหรือสิ่งเร้า)
• หน่วย
• จำพวก
• ความสัมพันธ์
• ระบบ
• การแปลงรูป
• การประยุกต์
ทฤษฎี Constructivism
• เด็กเรียนรู้เอง
• เด็กคิดเอง
• ครูกับเด็กเรียนรู้ไปด้วยกัน
• สร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วยตนเอง
กิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
Torrance ได้กล่าวถึงลักษณะของกิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ไว้ 3 ลักษณะ
• ลักษณะที่ 1 ความไม่สมบูรณ์ การเปิดกว้าง (Incompleteness, Openness)
• ลักษณะที่ 2 การสร้างบางอย่างขึ้นมา และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์
(Producing Something and Using It)
• ลักษณะที่ 3 การใช้คำถามของเด็ก (Using Pupil Question)
นอกจากนี้หลังจากเรียนทฤษฎีแล้ว อาจารย์ได้ให้ทำกิจกรรมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
หลังจากนั้นอาจารย์ได้ให้พวกเราทำกิจกรรมที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของพวกเราโดยที่อาจารย์ได้แจกกระดาษA4ให้พวกเราคนละหนึ่งแผ่น และให้พวกเราทำอย่างไรก็ได้ให้กระดาษที่เราได้ลงไปอยู่ในกล่องที่อาจารย์ได้ตั้งเอาไว้ ซึ่งพวกเราทุกคนก็ทำออกมาเป็นรูปจรวดกันเกือบทุกคนแตกต่างกันแค่รูปทรงของจรวดเท่านั้น
เมื่อจบการทำกิจกรรมอาจารย์จึงได้อธิบายว่าพวกเราทุกคนเป็นคนที่คิดอยู่ในกรอบไม่ค่อยมีความคิดสร้างสรรค์เท่าที่ควร ซึ่งต่างจากเด็กอนุบาลตรงที่เด็กสามารถคิดได้อย่างอิสระไม่มีกรอบมากำหนดความคิดของเขาได้ ซึ่งเด็กบางคนก็เลือกที่จะขยำกระดาษให้เป็นลูกกลมๆเพื่อที่เขาจะได้ปาลงในกล่องได้
กิจกรรมลากเส้นตามเสียงเพลง
โดยอาจารย์ให้จับคู่กัน แล้วอาจารย์ได้แจกกระดาษให้คู่ละ 1 แผ่น และให้แต่ละคู่ออกไปหยิบสีเทียนที่ตนเองชอบคนละ 1 แท่งจากนั้นอาจารย์มีกติกาว่าให้นักศึกษาลากเส้นอย่างอิสระลงบนกระดาษตามเสียงเพลงที่ได้ยินโดยห้ามยกสีขึ้นจนกว่าเพลงจะหยุด และเมื่อเพลงหยุดให้นักศึกษาช่วยกันจินตนาการว่ามองเห็นภาพอะไรจากเส้นที่ลากเอาไว้ แล้วช่วยกันระบายสีลงในภาพที่เห็น จากนั้นนำมาวางไ้หน้าห้องเพื่อโชว์ผลงานและอธิบายถึงภาพที่เห็น
การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
สามารถนำกิจกรรมที่เราได้ทำในวันนี้ไปใช้กับเด็กได้ ซึ่งกิจกรรมทั้ง 2 กิจกรรมนี้จะเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเด็กได้อย่างโดยตรง
การประเมินผล
ตนเอง : ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมเป็นอย่างดี
เพื่อน : ร่วมสนุกกับกิจกรรมต่างๆที่อาจารย์จัดให้
อาจารย์ : สามารถทำให้นักศึกษาเข้าใจกระบวนการคิดสร้างสรรค์โดยผ่านกิจกรรมได้เป็นอย่างดี เพื่อช่วยให้นักศึกษาเข้าใจเนื้อหาที่ยากๆให้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น